วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ใครไปดู Transformers ภาคล่าสุดมาแล้วบ้าง มาดูรถที่แปลงร่างเป็น Bumble-Bee กัน



Chevrolet Camaro

รถสปอร์ตอเมริกันขนาดกลางกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะเชฟโรเลตตัดสินใจเผยโฉม คามาโร่ ออกมาให้คนอเมริกันได้ยลโฉม ซึ่งมีคิววางขายในสหรัฐอเมริกาปลายปีนี้ ... คามาโร่ เป็นผลผลิตมาจากต้นแบบที่เปิดตัวโดยใช้ชื่อเดียวกันนี้เมื่อปี 2006 ในงานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ คามาโร่ใหม่เป็นสายพันธุ์ที่ 5 ด้วยตัวถังคูเป้แบบ 2+2 ที่นั่ง และรุ่นเปิดประทุนจะตามมาอีกไม่เกิน 2 ปี คามาโร ได้รับการพัฒนาบนพื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นใหม่ของจีเอ็ม และมีล้อแม็กให้เลือกหลากหลายทั้งขนาด 18, 19 หรือ 20 นิ้ว เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งบล็อกเล็กและใหญ่ ซึ่งแบบแรกเป็นขุมพลังวี 6 ทวินแคม 24 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันและระบบไดเร็กต์อินเจ็คชัน กำลังสูงสุด 300 แรงม้า สำหรับอีกทางเลือกหนึ่งเป็นเครื่องยนต์ บล็อก วี 8 OHV ที่มีความจุถึง 6,200 ซีซี รีดกำลังออกมาใช้งานได้ 400 แรงม้า และในเวอร์ชัน L99 และจะขยับเป็น 422 แรงม้า ระบบเกียร์ก็มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดา หรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ โดยในเวอร์ชัน L99 มีระบบ AFM-Active Fuel Management ลดจำนวนการจ่ายน้ำมันเข้าสู่กระบอกสูบจาก 8 เหลือ 4 สูบเพื่อความประหยัดน้ำมัน ยังไม่เปิดเผยราคาให้ทราบ ผมรู้เพียงแต่ว่า คามาโร่รุ่นนี้ มันแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ไม่ได้ครับ
ย้ำครับแปลงร่างเป็รหุ่นยนต์ไม่ได้ครับ
ที่มา : Manager





"Transformers" หนังฟอร์มยักษ์แห่งปีของฮอลลีวู๊ด
กำกับโดย ไมเคิล เบย์ และอำนวยการสร้างโดย สตีเว่น สปีลเบิร์ก เอาล่ะมาดูเรื่องย่อๆ ของหนังเรื่องนี้กันดีกว่า เป็นการเรียกน้ำย่อย ว่างั้นซะ...
ภาพยนตร์เรื่อง Transformers เป็นมหันตภัยร้ายแรงอีกครั้งที่โลกต้องเผชิญ
กับสงครามที่น่ากลัวที่สุดที่อุบัติขึ้นจากอภิมหาสงคราม
ระหว่างกาแล็คซี่ของหุ่นยนต์สองเชื้อชาติ
มันคือสงครามล้างผลาญครั้งใหญ่ของหุ่นยนต์ฝ่ายธรรมะและอธรรม
ที่มีเทคโนโลยีเหนือล้ำกว่าหุ่นยนต์ทั่วไปที่เรารู้จัก
นั่นคือ ความสามารถพิเศษในการแปลงรูปร่างเป็นสิ่งต่างๆได้
เช่น รถ, เครื่องบิน และเครื่องจักรกลไฮเทคต่างๆ
ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดคือ พวกมันมีเป้าหมายในการยึดครองโลก
ซึ่งยังมีแหล่งพลังงานที่สำคัญกับเผ่าพันธุ์ของพวกมัน
ทำให้โลกต้องตกอยู่ในวังวนของอภิมหาสงครามนี้
และต้องเผชิญหน้ากับหายนะใหญ่หลวง
กว่าวิกฤตการณ์ครั้งไหนๆที่เราเคยเจอ
แน่นอนว่าในเมื่อหุ่นยนต์ที่ออกมาอาละวาดทำสงครามกัน
มาจากการแปลงร่างจากยานพาหนะต่างๆ
ดังนั้น จึงขาดไม่ได้ที่จะต้องมีรถยนต์เข้ามาเกี่ยวด้วย
และในเมื่อมีรถยนต์ ผู้ผลิตรถยนต์ก็ต้องขอเข้ามามีเอี่ยวด้วย
โดยงานนี้เรียกว่าจีเอ็ม หรือเจนเนอรัล มอเตอร์สเลยเข้ามามีส่วนร่วม
และส่งรถยนต์เข้าฉากทั้งหมด 4 รุ่นซึ่งสามารถแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์



ทั้ง 4 รุ่นที่ว่าก็มีจีเอ็มซี ท็อปพิก360 (GMC Topkick) แปลงร่างเป็น Ironhide
ปอนเตียก โซลส์ทิซ(Pontiac Solstice)แปลงร่างเป็น Autobot jazz
ฮัมเมอร์ เอช2 เรสคิว(Hummer H2) แปลงร่างเป็น Autobot Rachet
แต่ที่เด็ดสุดคือ การเลือกโปรโมท เชฟโรเลต คามาโรใหม่(Chevrolet Camaro)
ที่จะเริ่มขายต้นปีหน้ากับเครื่องยนต์วี8 6,000 ซีซี 400 แรงม้า
ด้วยการแปลงร่างเป็นหุ่นตัวเอกของเรื่องอย่าง Bumblebee
หุหุ...ดูแต่ละคันดิสวยๆ งามๆ กันทั้งนั้น อยากได้บ้างเนอะ
สำหรับดาว 4 ดวงใหม่ของฮอลลีวู้ด ทั้ง Bumblebee
Autobot Jazz Autobot Ratchet และ Ironhide
เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของ บริษัท ดรีมเวิร์คส พิเจอร์ส แอนด์ พาราเม้าท์ พิกเจอร์ส
ร่วมกับ บริษัท แฮสโบร จำกัด
โดยจะนำมาเปิดตัวในภาพยนตร์เรื่อง Transformer เป็นครั้งแรก
วันที่ 4 กรกฎาคม 2550 นี้ ในงาน "ten" Pre-Oscar Fashion Event
ที่ พาราเม้าท์ พิกเจอร์ส ฮอลลีวู้ด
ซึ่ง บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น สหรัฐอเมริกา จัดขึ้นเป็นปีที่ 6.

ตัวเอกของเรื่อง "Bumblebee" ซึ่งรับบทโดย
"เชฟโรเลต คามาโร (Chevrolet Camaro)" ."ภาพยนตร์ Transformers เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้น
พร้อมนำเสนอรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ของจีเอ็มออกสู่ตลาดทั่วโลก
รวมทั้งสร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ของเรา
นอกจากนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของ ความสนุกสนาน
การตลาด และการออกแบบอีกด้วย
" ไมค์ แจ๊คสัน รองประธานฝ่ายสื่อสารและการตลาด
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส สหรัฐอเมริกา ให้ความคิดเห็น.

ฮัมเมอร์ เอช2 เรสคิว(Hummer H2) รับบทเป็น Autobot Rachet .ขณะเดียวกัน ไมเคิล เบย์ ผู้กำกับ Transformers กล่าวว่า
"ครั้งแรกที่ผมเห็น Chevrolet Camaro ตอนเข้าชมศูนย์ออกแบบรถยนต์ของจีเอ็ม
ผมรู้ได้ทันทีเลยว่ารถคันนี้จะเป็นเป็นหุ่นยนต์ดัดแปลง Bumblebee
ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
เพราะทั้งการออกแบบลายเส้นที่สวยงาม ดูคลาสสิคและทันสมัยตลอดกาล
ทำให้ไม่มีรถรุ่นใดที่จะเหมาะกับบทนี้มากไปกว่า Camaro อีกแล้ว
ถึงแม้ผมเคยมีประสบการณ์ทำงานร่วมกับจีเอ็มมาหลายปีแล้ว
แต่ผมก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้
ที่จะได้ร่วมงานกับจีเอ็มในการสร้างภาพยนตร์ Transformers ครั้งนี้"
ซึ่งการร่วมมือกันหนนี้ถือเป็นอีกครั้งที่แนวคิด Product Placement
ถูกนำมาใช้งานผ่านทางภาพยนตร์ของฮอลีวู้ด
แต่คราวนี้เห็นทีจะดังระเบิดเพราะเชื่อเลยว่า Transformers
คงฮิตกวาดรายได้ถล่มทลายทั่วโลก
และนั่นยังไม่รวมถึงการเป็นที่รู้จักของบรรดาเด็กๆ
และผู้ใหญ่ที่หัวใจยังเด็กผ่านทางของเล่น
ที่จะทำออกมาขายเป็นรายได้อีกทางด้วย

ที่มา: http://www.showded.com/myprofile/mainblog.php?user=doodd&jnId=5962

1 ความคิดเห็น: